สวัสดีค่ะ^^ หุหุ วันนี้เป็นวันสุดท้ายของปี 2558 แล้วนะคะ แล้วตอนนี้ก็เวลา 5 ทุ่มกว่าแล้วด้วย ... คืออีกไม่กี่นาทีข้างหน้า คนข้างนอกก็จะจุดพลุ นับ Countdown ต้อนรับปีใหม่กัน ... แต่หงี ... ด้วยความรักและหวังดีอย่างสุดซึ้งต่อคนอ่าน ( ใช้คำได้เสร่อมาาาาาาก ) จึงได้มาทำตามสัญญา ... แชร์กลยุทธ์ที่น่าสนใจของ "ขงเบ้ง" ต่อ ... ในตอนที่ 2 ค่ะ^^
วันนี้ กลยุทธ์ที่เขียนในหนังสือนั้น ชื่อว่า "เพิ่มมูลค่าบุคคลด้วยสามเยือนกระท่อมหญ้า" ... เนื้อหาในตอนนี้ หงีอ่านแล้ว ก็รู้สึกว่า มันเล่นกับ "จิตใจ" และ "ความคาดหวัง" ดี ... จนหงีไม่อยากจะตัดข้อความอะไรมาก จึงขออนุญาตตัดตอนลอกมาจากหนังสือบางส่วนเลยนะคะ
ถ้ายังจำกันได้ .. ตอนที่แล้ว "ขงเบ้ง" ได้กระตุ้น "ความอยาก" ในการพบหน้าของเล่าปี่ โดยการ PR บวกกับการใช้ "คน" เพื่อตอกย้ำสรรพคุณของตัวเอง ... มาถึงตอนนี้ .... เล่าปี่ "อยาก" พบขงเบ้งมากแล้ว จึงได้ออกเดินทาง เพื่อไปพบขงเบ้งยังที่พักของเค้า
"ระหว่างทางของเล่าปี่นั้น เขาต่างเรียกถามใครต่อใครที่พบเป็นขงเบ้งไปเสียหมด เนื่องด้วยเหล่าผู้คนทั้งหลายในละแวกดอยหลงจงนั้น ล้วนเป็นตัวหมากในสูตรของการ PR แบบฉบับของขงเบ้งทั้งสิ้น ทุกคนต่างให้ข้อมูแก่เล่าปี่ถึงความรู้ความสามารถที่ขงเบ้งมี ค่อยๆโน้มน้าวให้เล่าปี่ เข้าใกล้กระท่อมหญ้าที่หมายไปเรื่อยๆ เพิ่มพูนความคาดหวังให้แก่เล่าปี่ถึงขีดสุด ก่อนเซอร์ไพรส์เขาด้วยการมาเสียเที่ยว!!
การมาครั้งนี้ของเล่าปี่คือการคว้าน้ำเหลว เขาเดินทางไปถึงกระท่อมริมน้ำตก กลางหุบเขาอันสวยงามของขงเบ้งที่ใครๆต่างกล่าวขานแล้ว แต่กลับถูปฏิเสธจากเด็กรับใช้ในกระท่อมนั้นอยางสั้นๆว่า 'อาจารย์ไม่อยู่ ไม่รู้จะกลับมาเมื่อใด' นั่นทำให้เล่าปี่ต้องเดินทางกลับอย่างผิดหวัง แต่ยังไม่ท้อถอยเพราะเขายังคงฝากฝังไว้ว่า ไม่นานเขาจะกลับมาใหม่อีกครั้ง
ซึ่งแท้จริงแล้ว .. ขงเบ้งไม่ได้ไปไหน แต่เขาอยู่ในบ้าน และนี่เป็นเพียงละครฉากแรกที่มีไว้ทดสอบคนอย่างเล่าปี่เท่านั้น ... สิ่งนี้เป็นหมากที่ขงเบ้งวางไว้ เพื่อ "เพิ่มมูลค่าของตน" ต่อยอดจากการ PR ที่กล่าวไปแล้วนั่นเอง
ในจุดนี้ ขงเบ้งได้ "ยกระดับความยาก" ที่เล่าปี่จะมาถึงตัวของเขาให้ซับซ้อนขึ้นไปอีกระดับ กลายเป็นหลักจิตวิทยาที่ว่า 'สิ่งใดที่ได้มายิ่งยากแค่ไหน เราย่อมเห็นคุณค่าของมันมากขึ้นเท่านั้น'
อุบายพิสดารนี้ จะไม่มีทางสำเร็จได้เลย หากว่าการ PR ของขงเบ้ง ไม่สามารถจับใจลูกค้าอย่างเล่าปี่ได้ตรงจุด และขงเบ้งไม่ได้มั่นใจมากพอ เพราะหากว่า เล่าปี่ เกิดล้มเลิกความตั้งใจแต่เพียงเท่านี้ ทุกอย่างก็จบ"
มาถึงตรงนี้ ... หงีอยากหยุด ชวนคิด นิดนึงก่อนนะคะ ... ตอนหงีอ่าน หงีก็ เอ๊ะ! เหมือนกันว่า เฮ้ย! ทำไมมันมั่นใจจังวะ ... แล้วก็หยุดคิดอยู่ซักพัก ... หงีมีความเห็นว่า ... Key สำคัญคือ ตอน PR นั้นเนี่ย ผลงานที่โชว์ออกมา มันคงต้อง "เจ๋งมากๆ" และ ผู้คนที่ช่วยตอกย้ำสรรพคุณ จะต้องเป็น "คนน่าเชื่อถือ" มันถึงจะช่วยกระตุ้นต่อมอยากของเล่าปี่ให้มีมากพอ จะออกเดินทางตามหาบุคคลคนนี้
นอกจากนั้น ... การกระตุ้นทุกระยะที่เล่าปี่เดินทางเข้ามาใกล้ตัวขงเบ้ง ต้องน่าเชื่อถือมากๆ และกระตุ้นได้ถูกจุดมากๆ คือ สรรพคุณของขงเบ้งที่ผู้คนเหล่านั้นบอกกับเล่าปี่ ต้องเป็นสิ่งที่เล่าปี่อยากได้จากตัวคนคนนี้ ... การกระตุ้นนั้น จึงจะได้ผล และช่วยหนุนให้ กลยุทธ์สร้าง "ความผิดหวัง" จะไป "เพิ่มดีกรีความอยากได้" ขงเบ้งของเล่าปี่ให้มากขึ้น
เอาล่ะ ... มาต่อข้อความในหนังสือกันนะคะ ^^
"อันที่จริง ในแง่ของจิตวิทยาบุคคลแล้ว ขงเบ้ง อาจไม่จำเป็นต้องหลบหน้าเล่าปี่เป็นครั้งที่สอง เพราะทั้งความพร้อมและความตั้งใจของเล่าปี่ถือว่า มากเพียงพอที่จะมอบความไว้วางใจให้ แต่หากเราจะกล่าวถึงความพิสดารของขงเบ้ง เขาย่อมมีวิธีคิดที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน เพราะสิ่งที่น่าลุ้นมากเป็นพิเศษ คือ เล่าปี่กลับไปอย่างผิดหวังกว่าเดิมมาก และแทบไม่มีแผนจะกลับมาอีกเลย
การเดิมพันของขงเบ้งครั้งนี้ จึงเดิมพันกันด้วย "เวลา"
เล่าปี่ที่พลาดหวังจะได้พบขงเบ้งมาถึงสองหนนั้น ทั้งท้อแท้และเหน็ดเหนื่อยด้วยวัยที่เกินห้าสิบปีมาแล้ว แต่เมื่อพักผ่อนครั้งใดก็ยังคงคาใจข้างในอยู่ลึกๆถึงขงเบ้งอยู่เสมอมา จึงทำให้เล่าปี่ออกเดินทางไปหาขงเบ้งเป็นครั้งที่ 3 และในครั้งนี้ การ "เพิ่มมูลค่า" และ การ "วัดใจ" เล่าปี่ก็สิ้นสุดลง เพราะหากขงเบ้งไม่ได้พบกับเล่าปี่ในครั้งที่ 3 นี้แล้ว คนที่ผิดหวังอาจจะเป็นขงเบ้งเอง"
คือบับ... อ่านแล้วคิดในใจอ่ะค่ะ ... เออ นี่ถ้าเปรียบเป็น ผู้หญิง นะ ... ขงเบ้งคงเป็นผู้หญิงประเภท สวยมวาาาาาาาาาาาาก งามเลอค่าอมตะ งามล้ำฟ้าล้ำสวรรค์ แถมไม่พอ ยังต้องเป็นผู้หญิงที่มีคุณสมบัติความเป็นกุลสตรีครบถ้วน เก่งทั้งบู๊และบุ๋น ฉลาดไหวพริบดี และอีกจิปาถะที่คงจะต้องมี เพื่อให้ผู้ชายเค้าอยากได้มวาาาาาาาาาาาาาาก ...จนกระทั่งทำให้เค้าเพ้อ ต้องออกตามหา และมิหนำซ็ำยังวางแผน "เพิ่มความอยาก" และ "มูลค่า" โดยการทำให้เค้า "ผิดหวัง" ถึง 2 ครั้ง 2 หน แต่เค้าก็ยังคาใจ!!! ต้องเอามาให้ได้!!!! จนต้องออกตามหาเป็นครั้งที่ 3
โอ๊ว หม่าาาาาาาาาาาาาย ... แค่อานก็เหนื่อย ... แต่ก็นับว่า กลยุทธ์ นี้ ... จริง ถูกต้อง ... และที่สำคัญ สนุก ค่ะ .... อันที่จริงแล้วหงีว่า Factor สำคัญ คือ หากคุณเป็น "ขงเบ้ง" คุณต้องรู้ให้แน่นะคะว่า "เล่าปี่" เค้าอยากได้อะไร (Know your customer) แล้ว PR ให้ถูก ให้เค้ามีข้อมูลให้แน่น ว่า คุณมีคุณสมบัติ หรือ มีสิ่งที่เป้าหมายต้องการจริงๆ (Message) และที่สำคัญคือ สิ่งที่คุณมีนั้นต้อง Unique ระดับประมาณว่า พลาดจากข้า เอ็งก็หาไม่ได้แล้ว หรือไม่ก็หายากมวาาาากอ่ะ ... ถ้าไม่อย่างงั้นแล้ว หงีว่า คุณก็เป็นแค่ผู้หญิงสวยคนหนึ่งที่เค้ารู้สึกสนใจ แต่ก็ไม้ได้มีอะไรพิเศษ เหมือนเป็นอะไรที่ Nice to have but not 'A Must' :) ไม่ได้อยากได้ขนาดนั้น แต่ถ้าได้ก็ดี แต่ก็คงไม่ได้ดีใจอะไร ... ไรเงี้ยยยยยยย
หงีพยายามคิด Business Case ของกลยุทธ์นี้อยู่นานนะคะ ... แล้วคิดออกด้วย ... แต่ ... หากจะยกตัวอย่างกลยุทธ์นี้ ให้ถึงกึ๋น ให้ดีที่สุดแล้ว หงีคิดว่า ควรจะใช้ตัวอย่างเรื่อง การเล่นตัวของผู้หญิงที่เวลาผู้ชายมาจีบ ก็น่าจะให้ภาพชัดกว่า ... นี่หงีว่า หงีแทบไม่ต้องอธิบายอะไรเลยนะ ตอนเนี้ยะ หงีว่า คุณก็เข้าใจแล้วอ่ะ ... ผู้หญิงสวยๆ ฉลาดๆ มารยาทงามๆ บุคคลิกดี จีบยากๆ มันเร้าใจอ่ะ มันอยากได้ มันคาใจ ต้องเอามาให้ได้ ... แต่ถ้าผู้หญิงสวยๆ แต่จีบง่ายๆ ได้มาก็ดี แต่ความพึงพอใจ หรือ ความภูมิใจตอนได้มา มันไม่เท่ากันเลย
ดังนั้น .. สาวๆจ๋า ... เรียนรู้ไว้เถอะ กลยุทธ์นี้ ... ถ้าอยากให้ผู้ชายเค้าอยากได้ เค้าเห็นเราเลอค่า กรุณา ... มั่นใจในคุณงามความดีของตัวเองไว้ ... เล่นตัวแต่พองาม ทดสอบจิตใจอีกฝ่ายให้แน่ค่ะ ... อย่าให้เค้าจีบติดง่ายๆ ... ไอ้ประเภทลองเดินเข้ามาดู ลองจีบดูเพราะเห็นว่าน่าสนใจดี แล้วพอเราเล่นตัวเข้าหน่อยก็หนีหาย .. ก็ปล่อยมันไปป้ายหน้าเถอะค่ะ ... เรามีค่ากว่านั้น เก็บความรัก เก็บความสามารถ เก็บทุกสิ่งที่เรามี ไว้ไปส่งเสริมแก่คนที่คู่ควรจะดีกว่า :)
ท้ายนี้ ... เรื่องการเพิ่มมูลค่านี้ หงีว่า มันค่อนข้างสามารถนำไปปรับใช้ได้หลายๆอย่างนะคะ ตั้งแต่เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างหญิงชาย ไปจนถึง การเลี้ยงลูก เช่น ถ้าหากอยากให้ลูกคุณเห็นคุณค่าของเงิน คุณต้องให้การได้ "เงิน" มานั้น ยากหน่อย ต้องทำอะไรบางอย่างมาแลก ไม่ใช่ให้ได้มาง่ายๆ แล้วท้ายที่สุด เค้าจะไม่เห็นคุณค่าของมัน หรือแม้กระทั่ง การเจรจาธุรกิจ ถ้าหากคุณอยากเพิ่มมูลค่าแก่ของที่คุณจะขาย คุณก็ต้องรู้จักที่จะ "เล่นตัว" เพื่อเพิ่มมูลค่าหรือราคาให้กับมัน .. อะไรแบบนี้เป็นต้นค่ะ
หงีว่าเรื่องนี้สนุกดี หงีชอบ^^ หงีไมไ่ด้พูดอะไรเยอะกับ Post นี้ แต่หงีเชื่อว่า เนื้อหาจากหนังสือที่พิมพ์ให้ มันได้อธิบาย และเล่าตรรกะ ความนึกคิด ความรู้สึกของตัวละครไปหมดแล้ว :)
ดีใจมากนะคะ ที่ยังตามอ่านกัน ... สำหรับ Post ต่อไป หงีสัญญาว่า จะไม่ให้รอนานค่ะ
Happy New Year 2016 ค่ะ ... ตอนนี้ ยิงพลุกันแล้ว!!!
No comments:
Post a Comment