ปลายปีแล้ว ... อากาศดีๆ และเป็นช่วงเวลาของการหยุดพักผ่อน ... วันนี้ก็จะแชร์เรื่องเบาๆ เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพและทานอาหารกันนะคะ^^
ทีแรกก็คิดอยู่นานค่ะ ... ว่าจะเขียนแชร์เรื่องนี้ดีไหม เพราะดูจะผิดธีมกับที่เขียนๆมา 555+ แต่ว่า ... คิดไปคิดมา ก็ได้คำตอบว่า ... ไม่เป็นไรหรอก คนอ่านก็น่าจะอยากรู้ล่ะน่า ( หุหุหุ ... เป็นคนมีคำตอบที่เข้าข้างตัวเองได้เสมอค่ะ)
เอาล่ะ ... เท้าความก่อน ... จริงๆแล้ว หงีก็เป็น มนุษย์ธรรมดา นี่แหละนะคะ ที่ชอบทานของอร่อย แต่ก็มีสติที่จะดูแลตัวเองบ้างตามสมควร ... หงีเริ่มออกกำลังกายเป็นประจำตั้งแต่ 23 ค่ะ เพราะช่วงนั้น ก็เป็นช่วงทำงานแล้ว และน้ำหนักตัวเปลี่ยนแปลงจากตอนเรียนพอสมควร ทำให้มานั่งนึกสาเหตุดู แล้วก็พบว่า เป็นเพราะกิจกรรมที่ทำในแต่ละวันมันเปลี่ยนไป ... ตอนไปเรียน เราเดินเยอะ ทำกิจกรรมนู่นนี่กับเพื่อนเยอะ (ตามประสาลิงทโมน 555+) แต่พอเริ่มทำงาน กิจกรรม มันก็น้อยลง แต่กินเหมือนเดิม ... นน. มันก็ขึ้นล่ะค่าาาาา
ผ่านมาอีก 4 ปี ... ซัก 27 ... ก็ได้รู้ว่า หงีมีน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติเล็กน้อยค่ะ ... ทำให้เป็นที่มาของการดูแลอาหารการกินมากขึ้น .. อ๊ะ! อย่าพึ่งคิดว่า จะเป็นคน Eat Healthy / Eat Clean อะไรเทือกนั้นนะคะ ... ไม่ค่ะ .. ความผิดปกตินี้ ยังไม่สามารถทำลายปนิธานการชอบรับประทานอาหารอร่อยของดิฉันได้ ... เพียงแต่ว่า จะมีสติในการดื่มน้ำอัดลมน้อยลง และลดน้ำตาลในกาแฟที่กิน
ผ่านมาอีก 4 ปี .. ( นั่งนับอายุหงีกันอยู่สินะ หึหึ) ตรวจร่างกายทุกปี น้ำตาลก็ยังสูงกว่าปกตินิดหน่อย อยู่ดี ... ก็ไม่ได้กังวลอะไรค่ะ เพราะรู้ดีว่า ยังเลิกน้ำอัดลมไม่ขาด และยังดื่มกาแฟทุกเช้า แล้วก็ยังทานของหวานอยู่บ่อย แล้วก็ยัง ยัง ยัง และยัง อีกมาก... 555+ แต่ก็รู้ตัวค่ะว่า อายุ เริ่มมากขึ้นแล้ว ต้องจริงจังกับการรับประทานอาหารให้มากขึ้น เลยเป็นที่มาของการเก็บรวบรวมความรู้ต่างๆ เกร็ดเล็ก เกร็ดน้อย เกี่ยวกับเรื่องนี้ ... และหงี กำลังจะนำมาแชร์ให้คุณฟัง แฮ่!!
1. การออกกำลังกายเป็นประจำ และอย่างมีวินัย .. ไม่ได้ช่วยทำให้คุณผอมนะคะ แต่ทำให้คุณมีร่างกายที่แข็งแรงได้
2. ถ้าอยากผอม ... คุณต้อง Control การกินค่ะ ... กินให้แคลอรี่น้อย แต่คุณต้องทำกิจกรรมให้มากกว่าที่กินเข้าไปนะคะ แล้วจะผอมแน่ๆทีเดียว
3. การกินให้แคลอรี่น้อย ... ไม่ได้หมายความว่า "กินดี" นะคะ ... การ "กินดี" คือ การกินอาหารครบ 5 หมู่ ในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย นั่นหมายความว่า คุณควรจะกิน "ไขมัน" และ "คาร์โบไฮเดรต" ด้วย
4. ข้อดีของไขมัน คือ นอกจากจะทำให้ "ร่างกายอบอุ่น"แล้ว ยังทำให้ "ผิวชุ่มชื่น" ... และจากการสังเกตส่วนตัวนะคะ Lean มากๆ มันทำให้ดูแข็ง ดูเกร็ง .. มีไขมันนิดๆ มันดูนุ่มนิ่ม Soft เป็นผู้หญิง น่าทะนุถนอมมากกว่าค่ะ ^^
5. คาร์โบไฮเดรต แน่นอน เมื่อกินเข้าไปแล้วมันจะไปเปลี่ยนเป็น "น้ำตาล" ... คุณรู้ไหมคะ สมองของเรา กิน "น้ำตาล" เป็นอาหารหลักนะคะ ... การไม่กิน คาร์บ เลย และแถมยังไม่กิน น้ำตาล ด้วย ... หงีว่า มันไม่ดีต่อ "สุขภาพสมอง" เลยค่ะ ... ซึ่งเป็นเรื่องที่หงี Concern มากนะ เลยให้น้ำตาลแก่สมองอยู่ตลอดเลยไง :) แฮ่!!
6. การที่ไม่มีน้ำตาลไปหล่อเลี้ยงสมอง จะทำให้เกิดภาวะเครียด หงุดหงิด อารมณ์ฉุนเฉีย และ ซึมเศร้า ได้นะคะ
7. น้ำตาลทรายขาว ออกฤทธิ์ต่อสมองแบบเดียวกับโคเคน คือ กินแล้วมีความสุข และ "ติด" ... หึหึ ... ดิฉันไม่แปลกใจ ทำไมมันถึงเลิกยากเลิกเย็นนัก กับ น้ำอัดลม ของหวาน น้ำหวาน ต่างๆ แล้วแถมยังกินแล้วรู้สึกมีความสุขอีกด้วย ^^
8. จากการอ่านเก็บเล็กผสมน้อยมาเรื่อยๆ .. สิ่งที่หงีนำมาปรับใช้ก็คือ หงีลดปริมาณน้ำตาลที่ได้รับต่อการกินอะไรใดๆใน 1 ครั้ง .. คือ ไม่ว่า น้ำตาล นั้นจะมาจากการกินของหวาน น้ำหวาน หรือ การกินคาร์โบไฮเดรต ... แต่ให้กินได้บ่อยขึ้น และรักษาระดับน้ำตาลในร่างกายให้คงที่มากขึ้น ... ในที่นี้ ก็คือ กินให้น้อยลงในแต่ละครั้ง แต่กินให้บ่อยขึ้น และกินให้ดีขึ้น ... นั่นหมายความว่า ถ้าหากหงีจะกินน้ำหวานในมื้ออาหารนี้ หงีจะกินในปริมาณที่เหมาะสม แล้วถ้ากินน้ำหวานแล้ว หงีก็จะกินแป้งน้อยหน่อย กับข้าวหวานน้อยหน่อย ... และ "กินดี" ก็คือ รู้จักเลือกอาหารที่มี Low Glycemic Index หรือ พวกมีดัชนีน้ำตาลต่ำ ... อุ๊ย ฟังดูวุ่นวาย ใช่ไหมคะ ... อืมมมม ก็นิดนึงค่ะ .. แต่หลักการจำง่ายๆ ก็คือ พวก Low GI เนี่ย ก็คือพวกผัก ผลไม้ ถั่ว นะคะ และพวก High GI ก็พวก แป้งขัดขาว ข้าวขาว ต่างๆ ... เพราะฉะนั้น ถ้าง่ายๆ คือ ข้าว ก็เลือก ข้าวกล้อง ถ้ามี ... ถ้าไม่มี มื้อนั้น ก็ไม่กินโค้ก ... ถ้าโดนอาหารฝรั่ง พวกสปาเก็ตตี้ พิซซ่า มื้อนั้น งดโค้ก งดของหวาน อะไรแบบเนี้ยะ ( More info about Low GI Food )
9. การทำอาหารเองนั้น ดูเหมือนยุ่งยาก ... แต่มัน ไม่ขนาดนั้น หรอกค่ะ ... จะไปยากอะไร ก็เลือกเมนูที่ทำง่าย และคุณชอบสิคะ ... ข้อดีของการทำอาหารเอง คือ คุณจะสามารถกะได้เลยว่า มื้อนี้ คุณได้อะไรจากการทานบ้าง แคลอรี่เท่าไหร่บ้าง และที่สำคัญ คุณเลือก Ingredient ที่คุณอยากจะทานได้เองเลยนะเออ
10. การออกกำลังกายนั้นมี 2 ประเภท คือ เวท (เน้นความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ) และ คาร์ดิโอ ( เน้น Burn)
11. จากการออกกำลังกายมาหลายปี ... ขอ Confirm ตรงนี้ ... วินัยอย่างเดียว ไม่ได้ช่วยให้คุณผอม และมีกล้ามเนื้อสวยงามตามต้องการได้
12. เพราะฉะนั้น หากคุณจะออกกำลังกาย ... ถามตัวเองให้ดีก่อนว่า คุณต้องการอะไร? .. ถ้าบอกว่า อยากมีร่างกายแข็งแรง ... โอเคค่ะ คาร์ดิโฮ + วินัย ช่วยได้ ... แต่ถ้าบอกว่า อยากมีกล้ามเนื้องามๆ หน้าท้อง Six pack สวยๆ และหุ่น Lean เหมือนนางแบบ Victoria Secret ... พูดเลยว่า คุณต้องจ้างเทรนเนอร์ เพื่อให้เค้าจัดตาราง Cardio + Weight ที่ถูกต้อง และ เหมาะสม "กับร่างกายของคุณ" ให้ ... ขอย้ำอีกครั้งหนึ่ง "กับร่างกายของคุณ" แปลว่า ร่างกายของคนเรา ไม่เหมือนกัน ... สรีระ + ปริมาณการสะสมของไขมันในที่ต่างๆในร่างกาย ก็ไม่เหมือนกัน ... ดังนั้น ตารางการออกกำลังกายของแต่ละบุคคล จึงเป็นเรื่องของแต่ละบุคคลเท่านั้น และมันต้องถูกจัดโดยผู้เชี่ยวชาญที่เข้าใจเรื่อง สรีระ และ การออกกำลังกายเพื่อลด และสร้างกล้ามเนื้อจริงๆ ... และขอบอกตรงนี้ หงีไม่เคยจ้างเทรนเนอร์ :) เพราะจุดประสงค์ของหงี เพียงแค่เพื่อมีร่างกายที่แข็งแรง และ เพราะชอบกิน เลยต้องเอาที่กินเข้าไป ออกบ้าง เท่านั้น หงีเลยเน้นแต่ Cardio และ ไม่หนัก ค่ะ
13. การพักผ่อน สำคัญมากกับร่างกาย ... เห็นได้ชัดเลยค่ะ ... หงีเอง ถึงจะตามใจปาก แต่เป็นคนค่อนข้างมีสติกับการกิน และ มีวินัยกับการออกกำลังกาย ... แต่ถ้าหากช่วงไหน ต่อให้กินดี ออกกำลังกายสม่ำเสมอ แต่เครียด นอนนน้อย พักผ่อนไม่พอ ... บอกเลย ดูพังมาก ... เพราะฉะนั้น Mind over body นะคะ ... จิตใจมาก่อน เครียดให้น้อย นอนให้พอ
14. ร่างกายคุณบอกได้ส่วนหนึ่งอยู่แล้ว เวลาที่คุณ กินมากเกินไป ... ลองสังเกตตัวเองให้ดีนะคะ .. มื้อไหน คุณกินพอดี คุณจะรู้อ่ะ ว่า คุณอิ่ม แต่ไม่อึดอัด ... แต่ถ้าหากมื้อไหน คุณกินมากไป แถมกินมันๆ คุณจะรู้สึกอิ่มแบบอึดอัด และไม่สบายตัว สบายคอ เลย เพราะมันจะรู้สึกเหมือนมีอะไรมันๆอยู่ในลำคอ อยู่ตลอดเวลา ... เพราะฉะนั้น สิ่งที่ต้องการจะบอกตรงนี้คือ ใช้ "สติ" และ "ใส่ใจ" สังเกต ฟัง ร่างกายของตัวเองให้มากๆ แล้วเรื่องการกินที่ดี มันจะตามมาโดยธรรมชาติ ค่ะ^^
นี่ก็เป็นเกร็ดเล็กๆน้อยๆ เรื่องการกิน และการออกกำลังกาย ที่หงีว่า มันไม่ใช่เรื่องยาก และเป็นเรื่องธรรมชาติ นะคะ .. โดยที่หงีแชร์อันนี้ หงีเอง ก็ไม่ใช่ กูรู และ ไม่ใช่คนเคร่งครัดในการทำทั้ง 2 เรื่องมากๆ .. เป็นคนปกติธรรมดา ... ดังนั้น หงีคิดว่า เรื่องราวนี้ ถ้าลองอ่าน แล้วนำไปปรับใช้ดู หงีเชื่อว่า ถ้าคุณเป็นคนที่ยังไม่ได้ดูแลสุขภาพเท่าไหร่ มันน่าจะเป็นประโยชน์ได้บ้าง
สุดท้ายนี้ ... พระเจ้าสอนว่า ให้เรามีความสุขกับการกิน ดื่ม และในการงานของเรา ... ดังนั้น กินเถอะค่ะ ถ้าคุณอยากจะกิน ดื่มเถอะค่ะ ถ้าคุณอยากจะดื่ม ... แต่อย่าลืม ใส่ใจ และ ฺBalance ... วันไหนคุณกินมาก และกินของมันๆของทอดๆ วันถัดๆไป ก็กินผักๆหน่อย ต้มๆหน่อย ... ถ้าเพื่อนฝูงครอบครัวจัดปาร์ตี้ แล้วคุณจะดื่มบ้าง หงีก็ไม่เห็นว่ามันจะผิดอะไร เพียงแต่ ดื่มอย่างมีสติ และ รู้จักที่จะงด หรือ ลด ในวันถัดๆไป ^^ ... ของอร่อยบนโลกนี้ เต็มไปหมดนะคะ^^ อย่าถึงกับอดมันเลยค่ะ เสียดายโอกาสชีวิต^^
ขอให้ทุกคนมีความสุขนะคะ ... Have a nice day ka^^
No comments:
Post a Comment